โรคเบาหวานในเด็กเป็นเรื่องที่พ่อแม่หลายคนอาจมองข้ามหรือไม่ทันได้สังเกต เพราะส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเบาหวานเป็นโรคที่เกิดกับผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กเช่นกัน โดยเฉพาะเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งเป็นชนิดที่พบในเด็กมากที่สุด ดังนั้น การสังเกตสัญญาณเตือนเบาหวานในเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที
ประเภทของโรคเบาหวานในเด็ก
- เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายโจมตีเซลล์เบต้าในตับอ่อนที่ผลิตอินซูลิน ทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้
- เบาหวานชนิดที่ 2 แม้จะพบได้ยากในเด็ก แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปัจจัยด้านวิถีชีวิต เช่น การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสมและการขาดการออกกำลังกาย
สัญญาณเตือนเบาหวานในเด็ก
- กระหายน้ำมากผิดปกติ เด็กที่เป็นเบาหวานมักจะกระหายน้ำบ่อยและดื่มน้ำในปริมาณมาก เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงทำให้ร่างกายต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ
- ปัสสาวะบ่อย หากสังเกตว่าเด็กปัสสาวะบ่อยผิดปกติ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน หรือมีการปัสสาวะรดที่นอน แม้จะโตพอที่จะควบคุมได้แล้ว อาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวาน
- น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ เด็กที่เป็นเบาหวานมักจะน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว แม้จะรับประทานอาหารในปริมาณปกติหรือมากขึ้น เนื่องจากร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลเป็นพลังงานได้ จึงต้องดึงไขมันและกล้ามเนื้อมาใช้แทน
- เหนื่อยง่ายและไม่มีแรง เด็กอาจรู้สึกเหนื่อยง่ายหรืออ่อนเพลีย เนื่องจากร่างกายขาดพลังงานจากน้ำตาลที่ไม่ถูกนำไปใช้
- หิวบ่อยและกินเยอะ แม้จะหิวและกินเยอะ แต่เด็กกลับมีน้ำหนักลดลง เนื่องจากร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลที่กินเข้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การมองเห็นเปลี่ยนไป ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอาจส่งผลต่อการมองเห็น ทำให้เด็กมีอาการตามัวหรือตาพร่าชั่วคราว
- แผลหายช้าหรือมีการติดเชื้อบ่อย แผลที่หายช้าและการติดเชื้อที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่พ่อแม่ควรระวัง เพราะระดับน้ำตาลที่สูงในเลือดอาจส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน
- ผิวหนังเปลี่ยนแปลง การมีจุดด่างดำที่ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณคอ รักแร้ หรือขาหนีบ อาจเป็นสัญญาณของภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของเบาหวานชนิดที่ 2
การป้องกันเบาหวานในเด็ก
แม้ว่าเบาหวานชนิดที่ 1 ไม่สามารถป้องกันได้ เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและระบบภูมิคุ้มกัน แต่เบาหวานชนิดที่ 2 สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยวิธีการดังนี้
- ส่งเสริมการกินอาหารสุขภาพ ลดการบริโภคน้ำตาลและอาหารแปรรูป รวมถึงเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
- ส่งเสริมการออกกำลังกาย ช่วยให้เด็กมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมและลดความเสี่ยงต่อการดื้อต่ออินซูลิน
- ส่งเสริมการพักผ่อนที่เพียงพอ การนอนหลับที่เพียงพอช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันและการเผาผลาญของร่างกาย
- การตรวจสุขภาพเป็นประจำ ควรพาเด็กไปตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อคัดกรองโรคเบาหวานหรือโรคอื่นๆ ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม
การสังเกตสัญญาณเตือนเบาหวานในเด็กเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะการวินิจฉัยและรักษาโรคตั้งแต่ระยะแรกเริ่มสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว พ่อแม่ควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของลูกในทุกด้าน รวมถึงการส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานในอนาคต