เลขที่อนุมัติ ฆสพ.สบส. 7542/2565

หน้าที่ของลำไส้

หน้าที่ของลำไส้

ลำไส้ใหญ่จะอยู่ในระบบย่อยอาหาร แต่ลำไส้ใหญ่ไม่ได้มีหน้าที่ย่อยอาหารเลย ถ้าอยากทำความรู้จักกับลำไส้ใหญ่ให้มากขึ้นตามมาดูหน้าที่ของลำไส้ใหญ่กัน
  1. รับกากอาหารที่ย่อยเสร็จแล้วจากลำไส้เล็กมากักเก็บไว้ที่ลำไส้ใหญ่ส่วนปลายเป็นก้อนอุจจาระ เพื่อขับถ่ายออกจากร่างกาย
  2. ดูดซึมน้ำ วิตามิน แร่ธาตุ และน้ำตาลกลูโคส ออกจากกากอาหาร กลับเข้าสู่ร่างกายผ่านกระแสเลือด
  3. ผลักดันกากอาหารให้ไปสู่ไส้ตรง และสร้างน้ำเมือกจากผนังลำไส้ใหญ่ด้านในออกมาหล่อลื่น เพื่อให้ขับถ่ายสะดวก
  4. เป็นที่อยู่ของแบคทีเรียหลายชนิดที่มีประโยชน์และไม่เกิดโทษ เช่น แบคทีเรียที่ช่วยสังเคราะห์วิตามินบีหลายชนิด วิตามินเค โพรไบโอติก เป็นต้น ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้มีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่เกิดโทษ สร้างสมดุลของกรดและด่าง ช่วยดูดซึมสารอาหาร ดูดซึมคอเลสเตอรอล ช่วยย่อยอาหารบางประเภทที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ หรือย่อยได้ไม่หมด

วิธีป้องกันโรคที่จะเกิดขึ้นกับลำไส้ใหญ่

  1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี ผัก ผลไม้ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายดี
  2. รับประทานโยเกิร์ต และนมเปรี้ยว เพื่อเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้
  3. หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ส่วนที่ไหม้เกรียมจากการปิ้ง ย่าง ทอด รมควัน เนื่องจากมีสารก่อมะเร็งไนโตรซามีน ซึ่งทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ รวมทั้งลดการรับประทานอาหารไขมันสูง อาหารรสจัดเกินไป
  4. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน เพื่อลดการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
  5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวของลำไส้ได้ ช่วยทำให้ลำไส้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนหลับน้อยเกินไปจะส่งผลให้จุลินทรีย์ในลำไส้ลดลง
  7. พยายามลดความเครียดด้วยการหากิจกรรมที่ทำแล้วช่วยผ่อนคลาย เพราะความเครียดจะทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวผิดปกติ และเป็นสาเหตุของโรคลำไส้แปรปรวนได้
  8. งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากสารเคมี และสารพิษที่ได้รับจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายส่งผ่านไปยังลำไส้ และก่อเกิดเป็นเซลล์มะเร็ง
  9. ควรขับถ่ายในช่วงเวลา 00-07.00 น. ที่เป็นเวลาทำงานของลำไส้ใหญ่ ทำให้ของเสีย และกากอาหารถูกขับได้ดีที่สุด หรือถ้าปกติเคยขับถ่ายเวลาไหนก็พยายามขับถ่ายเวลาเดิมให้ได้ทุกวัน แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องการขับถ่าย แนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง 1-2 แก้ว หลังตื่นนอนทันที จะช่วยกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานและขับถ่ายได้สะดวก
  10. ควรตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปี หรือคนที่เคยมีประวัติ หรือสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือเคยตรวจพบติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่มาก่อน รวมทั้งคนที่เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง และคนที่สูบบุหรี่ คนที่ดื่มสุราเป็นประจำ

ลำไส้ดี สุขภาพด็จะดีตามไปด้วย โดยลำไส้เล็กมีความสำคัญมากที่สุดแต่คนส่วนใหญ่กลับละเลยใส่ใจในการดูแล ลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายโดยตรง หากรับประทานอาหารที่มีสารปนเปื้อนหรือมีสารพิษตกค้าง ทำให้ลำไส้เกิดการอักเสบ สารพิษซึมผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย

 

 วิธีการดูแลลำไส้เล็กให้มีสุขภาพดี ควรรับประทานอาหารที่ไม่มีสารพิษปนเปื้อน ถูกสุขลักษณะ ไม่รับประทานอาหารซ้ำซาก และรับประทานแบคทีเรียชนิดดีที่มีประโยชน์ ซึ่งอยู่ในโยเกิร์ตและนมเปรี้ยว เพื่อเสริมการช่วยย่อยให้มีประสิทธิภาพให้ดีขึ้น หลังจากอาหารผ่านลำไส้เล็กมาแล้วจะเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ หากลำไส้ใหญ่ทำงานดีจะส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย แต่การขับถ่ายในชีวิตประจำวันไม่สามารถกำจัดของเสียและสารพิษออกมาได้ทั้งหมด การหาตัวช่วยเสริมก็เป็นอีทางเลือกที่จะช่วยให้ลำไส้เราสุขภาพดี หากมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ V Precision Clinic เรามีทีมแพทย์คอยแนะนำ ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมงาน ที่มีความรู้ความชํานาญ เพื่อดูแลสุขภาพของคุณเฉพาะบุคคล เข้ามาปรึกษาที่ V Precision Clinic

เอกสารอ้างอิง

https://www.komchadluek.net/news/164637

https://health.kapook.com/view246824.html

Relate Article

โรคร้าย .. ที่มากับสายฝน

หน้าฝนหลายคนคงช …

ผลกระทบของ AGEs ต่อร่างกาย

AGEs เกิดจากปฏิ …

ยิ่งเครียด … ยิ่งเสี่ยงโรค

การที่มีความเคร …

ลมชักวายร้ายทำลายสมอง

โรคลมชัก (Epile …