เลขที่อนุมัติ ฆสพ.สบส. 7542/2565

แค่ท้องเสียหรือลำไส้อักเสบ

แค่ท้องเสียหรือลำไส้อักเสบ

ลำไส้อักเสบ – อาการปวดท้องและท้องเสียบ่อยๆ ดูเหมือนจะเกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่หากมีอาการรุนแรงขึ้น ขับถ่ายมีเลือดปนออกมา ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อย่านิ่งนอนใจ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที สามารถพบได้ในทุกช่วงอายุ อาการของโรคมีความคล้ายคลึงกับโรคกระเพาะ โรคริดสีดวงทวาร หรือโรคลำไส้แปรปรวน ผู้ป่วยจึงไม่เฉลียวใจ ทำให้ได้รับการรักษาที่ไม่ตรงกับโรค เมื่อปล่อยทิ้งไว้ทำให้มีอาการหนัก และเรื้อรังเพิ่มขึ้น โรคลำไส้อักเสบ เป็นโรคฮิตของวัยทำงาน เนื่องจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพนัก ทั้งกินไม่ตรงเวลา กินอาหารชนิดเดิมซ้ำ ๆ ก่อให้เกิดอาการอักเสบในลำไส้ และทำให้เสี่ยงลำไส้อักเสบเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ลำไส้ตีบตัน ลำไส้ทะลุ มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็ง หรือเกิดโรคแทรกซ้อนถึงขั้นเสียชีวิตได้

ลำไส้อักเสบ เกิดจากสาเหตุใด

   โรคลำไส้ใหญ่เกิดจากพฤติกรรมรับประทานอาหารของเราที่ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองลำไส้เป็นเวลานาน บวกกับภาวะความเครียดที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการกินด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหากเครียดแล้วกินไม่เป็นเวลา เครียดแล้วหาอาหารขยะรับประทานจนเสพติด หรือความเครียดส่งผลให้ลำไส้แปรปรวน ทำงานผิดปกติไป ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายก็จะปรวนแปรตามไปด้วย ก่อให้เกิดอาการท้องเดิน ปวดท้องบิดบ่อย ๆ จนเข้าใจผิดว่าเป็นปัญหาการขับถ่ายของตัวเอง ไม่ได้เอะใจว่าเป็นอาการของลำไส้อักเสบ

ลำไส้อักเสบ อาการเป็นอย่างไร

  • ปวดท้องกะทันหัน เนื่องจากลำไส้บีบตัว
  • ปวดท้องเวลาเดิมซ้ำ ๆ
  • ถ่ายอุจจาระบ่อย (5-10 ครั้งต่อวัน)
  • บางครั้งปวดถ่ายแต่ถ่ายไม่ออก
  • ท้องเสียบ่อย ท้องเสียมาหลายวันแล้วยังไม่หาย
  • ปวดท้องบิด
  • ลักษณะอุจจาระผิดปกติ เช่น อุจจาระเหลวเป็นน้ำ มีมูกเลือดปน กลิ่นเหม็นผิดปกติ หรืออุจจาระมีสีซีดกว่าเดิม
  • บางรายอาจมีอาการไข้ร่วมด้วย
  • คลื่นไส้ อาเจียน (บางราย)
  • หนาวสั่น อ่อนเพลีย
  • บางรายที่เป็นหนักจะมีอาการท้องเดินและอาเจียนพร้อม ๆ กัน

         เพราะอาการลำไส้อักเสบไม่ได้แสดงออกชัดเจนมากนัก ส่วนใหญ่เลยมักจะคิดว่าเป็นอาการท้องเสีย ท้องเดินธรรมดา อาการลำไส้อักเสบมักจะค่อยเป็นค่อยไป แต่จะเป็นเรื้อรัง เนิ่นนาน จนคนไข้ไม่คิดว่าเป็นโรคลำไส้อักเสบ ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่รักษา ระยะหลัง ๆ อาจถ่ายมีเลือดปน หรือท้องเสียกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุบ่อย ๆ ทำให้เกิดแผลในลำไส้ และการรักษาก็จะยากขึ้น นอกจากนี้ การเกิดแผล และการเสียดสีบริเวณที่อักเสบเป็นเวลานาน ก็ยังเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

ควรหมั่นสังเกตอาการตัวเองอยู่ หากพบว่ามีความผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หรือสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ V Precision Clinic เรามีทีมแพทย์คอยแนะนำ ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมงาน ที่มีความรู้ความชํานาญ เพื่อดูแลสุขภาพของคุณเฉพาะบุคคล เข้ามาปรึกษาที่ V Precision Clinic