กระดูกและข้อ…โรคที่ต้องดูแลแต่เนิ่นๆ

กระดูกและข้อ…โรคที่ต้องดูแลแต่เนิ่นๆ

อาการเริ่มแรกของข้อเสื่อม คือ อาการข้อฝืดหรือติดขัด ในระยะหลังๆ จึงมีอาการปวดและบวมผิดรูป ส่วนในการเสื่อมของกระดูกบาง ก็เกิดจากการที่มวลกระดูกลดลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่มีอาการ แต่จะแสดงอาการเมื่อกระดูกหักเอง หรือหักง่ายในวัยชรา “นม” ไม่ใช่ทางออกเดียว เพื่อเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ยังมีอาหารอีก 6 ชนิดที่ควรกินในทุกๆ วัน เพื่อให้ร่างกายของเราได้รับปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอต่อวัน
  • แครอท6 แก้ว พร้อมน้ำผักโขม 50 กรัมทุกวัน มีแคลเซียมสูงถึง 300 มิลลิกรัม และเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวหนัง
  • ธัญพืชส่วนใหญ่เช่น  ถั่วแดงหลวง (Rajma) หรือ ถั่วลูกไก่ (Kabuli chana) มีแคลเซียมระหว่าง 200-250 กรัม
  • งาขาว และงาดำประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะทุกวัน
  • ผักใบเขียวเช่น ผักโขม คะน้า บรอกโคลี ดีต่อกระดูกมาก เพราะมีไฟเบอร์ วิตามินต่างๆ และธาตุเหล็กที่จำเป็นต่อกระดูก
  • การบริโภคโปรตีนให้เพียงพอเช่น ถั่วเปลือกแข็ง ไข่ พืชตระกูลถั่ว และถั่วเลนทิล ต่างอุดมไปด้วยโปรตีน และสารอาหารที่สำคัญต่อกระดูก
  • อาหารที่อุดมด้วยซิตรัสเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ควรเป็นแผนในการรับประทานอาหารของคุณ เช่น เบอร์รี่ ส้ม และ องุ่น ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซี และสารอาหารที่จำเป็นต่อกระดูก

การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันกระดูก และข้อ

อาการเสื่อมของกระดูกและข้อนั้น สามารถดูแลได้ด้วยการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การออกกำลังกายที่มีการทิ้งน้ำหนัก เช่น วิ่งเหยาะๆ หรือแอโรบิค ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็วๆ รำไทเก็ก รำกระบอง และเต้นลีลาศช้าๆ เป็นต้น จะช่วยให้กระดูกและข้อแข็งแรง โดยพฤติกรรมส่วนใหญ่ที่พบในคนไข้คือ ขาดการดูแลร่างกายและมีพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรค ทานอาหารครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ และเลือกทานอาหารที่มีแคลเซียม และวิตามินดีสูง เช่น นม โยเกิร์ต ปลาตัวเล็ก กุ้งแห้ง ผักใบเขียว พืชตระกูลถั่ว เต้าหู้ และงาดำ เป็นต้น ดูแลรักษาโรคประจำตัวอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ ปรับเปลี่ยนสภาวะสิ่งแวดล้อมภายในบ้านเพื่อลดโอกาสการหกล้ม เช่น เพิ่มหลอดไฟในจุดที่มีโอกาสหกล้ม ปรับพื้นห้องน้ำให้ระดับเดียวกัน และเพิ่มราวจับเพื่อช่วยทรงตัวในจุดที่มีโอกาสหกล้ม

กระดูกต้องการแคลเซียม เพื่อเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง ดังนั้นอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม หรือสารอาหารที่ช่วยให้เกิดการดูดซึมแคลเซียมได้ดี อย่าง แมกนีเซียม วิตามินเอ และวิตามินดี จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรรับประทานในทุกๆ วัน นอกเหนือจากนี้ ยังรวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันที่ระมัดระวัง พฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อมวลของกระดูกด้วย เพราะถ้าปล่อยให้กระดูกหัก รักษาไม่ถูกวิธี อาจถึงขั้นพิการถาวรได้

นอกจากนี้ ควรหมั่นสังเกตอาการตัวเองอยู่เสมอ หากพบอาการผิดปกติใด ๆ หรือกำลังป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อที่จะได้หาตัวช่วยเสริมอื่นๆในการรักษา เพื่อให้คุณมีข้อเข่าที่มีสุขภาพดีขึ้นด้วยการใช้วิตามิน ร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หรือสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ V Precision Clinic เรามีทีมแพทย์คอยแนะนำ ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมงาน ที่มีความรู้ความชํานาญ เพื่อดูแลสุขภาพของคุณเฉพาะบุคคล เข้ามาปรึกษาที่ V Precision Clinic