โรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็กส่วนต้น
อาการที่ พบบ่อยมักจะปวด จุกแน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือบริเวณหน้าท้องช่วงบน โดยมากจะปวดเป็น ๆ หาย ๆ มีช่วงระยะเวลาที่ไม่มีอาการอยู่พักหนึ่ง แล้วกลับมาเป็นอีกได้ แต่อาการจะทุเลาลงหากทานยาลดกรด
โรคกรดไหลย้อน
หากคุณมีอาการจุกแน่นบริเวณหน้าอก ลิ้นปี่ แสบหน้าอกตลอดทั้งวัน เหมือนอาหารไม่ย่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนจุกอยู่ในลำคอ เสียงแหบ และที่สำคัญคือ มีน้ำรสเปรี้ยว ๆ ขม ๆ ไหลย้อนขึ้นมาในปาก นี่คืออาการชัด ๆ ของ “โรคกรดไหลย้อน” ซึ่งอาการเหล่านี้มักแสดงหลังทานอาหารอิ่มมาก ๆ หรือนอนราบหลังทานข้าวเสร็จใหม่ ๆ
มะเร็งหลอดอาหาร หรือมะเร็งกระเพาะอาหาร
อาการเจ็บลิ้นปี่ ร่วมกับกลืนอาหารลำบาก อาเจียนบ่อย อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ซึ่งถ้าหากเกิดอาการแสดงอย่างนี้ ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ใจ
นิ่วในถุงน้ำดี
อาการจุกลิ้นปี่ ส่วนใหญ่มักจะเกี่ยว นิ่วในถุงน้ำดี เพราะหากมีก้อนนิ่วมาอุดตันตรงบริเวณท่อน้ำดี จะทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงมาก ปวดแบบบิดเกร็งตรงบริเวณใต้ชายโครงขวา และลิ้นปี่ ซึ่งอาการนี้มักจะเกิดหลังทานอาหารมัน ๆ หรือทานอาหารกลางดึก โดยจะปวดนาน 15-30 นาที หรือในบางรายถึงขั้น 2-6 ชั่วโมงได้เลย และจะทุเลาไปเอง และนาน ๆ จะปวดสักครั้ง ไม่ได้ปวดทุกวัน
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือโรคหัวใจขาดเลือด
อาการจุกลิ้นปี่ เป็นอีกเหนึางสัญญาว่า คุณ อาจกำลัง เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยอาการสำคัญคือจะปวดลิ้นปี่ และร้าวขึ้นไปถึงไหล่ซ้าย ต้นแขน คอ ขากรรไกรนาน 2-5 นาที มักแสดงอาการหลังออกกำลังกาย ใช้แรง เครียด หรือหลังสูบบุหรี่ แต่อาการจะดีขึ้นหากได้หยุดพัก หรืออมยาขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ บางคนอาจมีอาการจุกแน่นลิ้นปี่เหมือนอาหารไม่ย่อย มีอาการใจสั่น หอบเหนื่อย
โรคตับ
ไม่ว่าจะเป็นตับอักเสบ หรือตับแข็ง อาจเกิดอาการจุกแน่นตรงลิ้นปี่ และใต้ชายโครงขวาได้ โดยมากจะมีอาการดีซ่าน ตาเหลือง ตัวเหลือง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
อาหารไม่ย่อย
เกิดจากระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้มีแก๊สในระบบย่อย และเกิดกรดเกินในกระเพาะ ทำให้เกิดอาการจุก เสียด แน่น บริเวณลิ้นปี่ สาเหตุของปัญหาที่พบบ่อยมีดังนี้
- การย่อยทำงานไม่มีประสิทธิภาพ เกิดจากการรีบเร่งกินอาหาร รีบเคี้ยวรีบกลืน หรือกินอาหารปริมาณมากเกินไป ทำให้เสียเวลาในกระบวนการย่อยนาน เพราะเอนไซม์ในน้ำลายย่อยอาหารไม่ทัน นอกจากนั้นแล้ว ยังทำให้น้ำย่อยในกระเพาะหลั่งได้น้อยลงอีกด้วย
- ความไวต่ออาหารบางประเภท เช่น อาหารจำพวกแป้งสาลี นม โดยเฉพาะอาหารที่มีเส้นใยมาก เพราะเป็นตัวดูดซับน้ำไว้ เมื่อพองตัวจะทำให้ท้องอืด เกิดอาการจุกแน่น
- การออกกำลังกายเร็วเกินไปหลังกินอาหาร เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะทำให้เลือดที่ควรจะไปเลี้ยงระบบย่อยอาหาร ถูกดึงไปเลี้ยงกล้ามเนื้อแทน ทำให้เลือดไปเลี้ยงระบบย่อยไม่เพียงพอ
- แก๊สในระบบทางเดินอาหารมาก เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและอัดแก๊สบางชนิด หรือการกินผลไม้หลังกินอาหารที่มีไขมัน เนื่องจากไขมันย่อยช้า ผลไม้จึงบูดก่อนที่จะได้ย่อย ทำให้เกิดแก๊สขึ้น
- กรดเกินในกระเพาะ เกิดจากความเครียดมีผลกระตุ้นให้กล้ามเนื้อกระเพาะอาหารบีบรัดตัว ซึ่งเป็นการสร้างกรดในกระเพาะ นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้กรดในกระเพาะอาหารหลั่งมากขึ้น
อาการจุกแน่นลิ้นปี่ เป็นสัญญาณของหลายโรคอย่างที่เราคาดไม่ถึงทีเดียว รวมถึงอาการปวดในลักษณะอื่น เช่นปวดท้องน้อย หรือปวดท้องข้างซ้าย ถ้าใครมีอาการผิดปกติ เป็นบ่อย ๆ แล้วไม่หายสักที ก็ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคโดยเร็วจะดีที่สุด
ควรหมั่นสังเกตอาการตัวเองอยู่ หากพบว่ามีความผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หรือสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ V Precision Clinic เรามีทีมแพทย์คอยแนะนำ ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมงาน ที่มีความรู้ความชํานาญ เพื่อดูแลสุขภาพของคุณเฉพาะบุคคล เข้ามาปรึกษาที่ V Precision Clinic
เอกสารอ้างอิง
https://health.kapook.com/view17086.html