“กาแฟ” เป็นเครื่องดื่มคู่ใจของใครหลายคน โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่ต้องการความตื่นตัวและเพิ่มพลังในการเริ่มต้นวันใหม่ แต่เคยสงสัยไหมว่า การดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวันนั้น ส่งผลต่อสมอง อย่างไรบ้าง? ทั้งในแง่บวกและแง่ที่ควรระมัดระวัง
ข้อดีของการดื่มกาแฟต่อสมอง
- เพิ่มความตื่นตัวและสมาธิ คาเฟอีนในกาแฟเป็นสารกระตุ้นที่ทำงานกับระบบประสาทส่วนกลาง โดยจะไปยับยั้งสารสื่อประสาท “อะดีโนซีน” ที่ทำให้รู้สึกง่วง ส่งผลให้คุณรู้สึกตื่นตัว กระฉับกระเฉง และสามารถจดจ่อกับงานได้ดีขึ้นในระยะสั้น
- ช่วยกระตุ้นความจำระยะสั้น มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่า คาเฟอีนในระดับที่เหมาะสมสามารถช่วยกระตุ้นสมองในด้านของ “Working Memory” หรือความจำระยะสั้น ทำให้ประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลได้ดีขึ้นชั่วคราว
- อาจลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม จากงานวิจัยบางฉบับ การบริโภคกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน เนื่องจากกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านการอักเสบที่ช่วยปกป้องเซลล์สมอง
ข้อควรระวังของกาแฟต่อสมอง
- ส่งผลต่อการนอนหลับ หากดื่มกาแฟช่วงบ่ายหรือเย็น คาเฟอีนอาจยังคงอยู่ในร่างกายและรบกวนคุณภาพการนอน ซึ่งส่งผลเสียต่อสมองโดยตรง เช่น ความจำแย่ลง สมาธิลดลง และอารมณ์แปรปรวนในวันถัดไป
- กระตุ้นความเครียดและความวิตกกังวล ในบางคนที่ไวต่อคาเฟอีน อาจรู้สึกกระสับกระส่าย ใจสั่น หรือมีความเครียดเพิ่มขึ้น คาเฟอีนกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน ซึ่งหากมากเกินไปอาจกระตุ้นระบบประสาทจนเกินสมดุล
- เสพติดโดยไม่รู้ตัว การดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวันอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อคาเฟอีน ต้องเพิ่มปริมาณเพื่อให้ได้ผลเท่าเดิม และหากหยุดดื่มกะทันหัน อาจเกิดอาการถอนคาเฟอีน เช่น ปวดหัว อารมณ์แปรปรวน หรืออ่อนเพลียได้
ดื่มกาแฟอย่างไรให้สมองได้ประโยชน์
- จำกัดการดื่มไม่เกิน 1–2 แก้วต่อวัน (ประมาณ 200–400 มก. คาเฟอีน)
- หลีกเลี่ยงการดื่มหลังเวลา 00 น.
- เลือกกาแฟไม่เติมน้ำตาลหรือครีมเทียมมากเกินไป
- ฟังสัญญาณจากร่างกาย หากมีอาการใจสั่น นอนไม่หลับ หรือวิตก ควรลดปริมาณ
กาแฟ ไม่ได้เป็นแค่เครื่องดื่มปลุกพลัง แต่ยังส่งผลต่อ สมอง ในหลายมิติ ทั้งช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และอารมณ์ แต่หากดื่มมากเกินไปหรือดื่มผิดเวลา ก็อาจกลับกลายเป็นผลเสียต่อสุขภาพสมองได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น การดื่มอย่างพอดี และฟังร่างกายของตัวเอง คือทางเลือกที่ดีที่สุดในการดูแลสมองให้สดชื่นในทุกวัน