ตรวจภูมิแพ้ในเด็กทำไมถึงสำคัญ ?

ตรวจภูมิแพ้ในเด็กทำไมถึงสำคัญ ?

ในปัจจุบัน โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กไทย และมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีมลภาวะสูง เช่น ควันรถ ควันบุหรี่ ฝุ่น PM 2.5 รวมไปถึงสิ่งเร้ากระตุ้นที่แตกต่างกัน เช่น อากาศเย็น การแพ้อาหาร การแพ้สารเคมี

ช่วงอายุของเด็กที่สามารถพบภูมิแพ้ได้ มีดังนี้

  1. วัยทารก ที่มีอายุระหว่าง 2 เดือน – 2 ปี ภูมิแพ้มักเกิดขึ้นในลักษณะผื่นแดงตามร่างกาย และจะเริ่มลุกลามจากการที่ผิวหนังของเด็กเสียดสีกับผ้า
  2. วัยเด็ก ที่มีอายุระหว่าง 2 – 10 ปี มักเกิดภูมิแพ้ในลักษณะตุ่มแดง ผื่นแดงตามบริเวณข้อพับแขน ขา และคอ ซึ่งจะมีอาการคัน เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเกาจนเกิดรอยแผล

ประเภทของภูมิแพ้ในเด็ก

โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีผิวแห้ง และมีผื่นคันตามข้อพับในส่วนต่าง ๆ แต่ถ้าหากพบในเด็กทารกจะเป็นผื่นแดง หรือตุ่มใสบริเวณข้างแก้ม

โรคภูมิแพ้อากาศ อาการที่เกิดขึ้น คือ การจาม คัดจมูก ไปจนถึงอาการคันตา น้ำตาไหล เมื่อได้รับสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่กระตุ้นอาการภูมิแพ้ได้ เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร แมลงสาบ รวมถึงมลพิษทางอากาศต่าง ๆ

โรคภูมิแพ้อาหาร อาการที่พบได้ส่วนใหญ่ คือ มีผื่นขึ้นตามร่างกาย ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาจรุนแรงจนถึงขึ้นช็อค และเสียชีวิตได้ โดยอาหารส่วนใหญ่ที่มักทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น นมวัว ไข่ อาหารทะเล

ภาวะภูมิแพ้อาหารแฝง ภาวะนี้มีความแตกต่างจากโรคภูมิแพ้อาหารทั่วไป เนื่องจากอาการที่เกิดขึ้นจะไม่แสดงออกมาโดยตรง แต่จะส่งผลกระทบให้ร่างกายของเด็กเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังในอนาคต

วิธีการตรวจภูมิแพ้ในเด็กในปัจจุบัน

โรคภูมิแพ้ในเด็กสามารถเกิดขึ้นได้หลายประเภท บางชนิดอาจแสดงอาการทันที แต่บางชนิดอาจสะสมในร่างกาย และเกิดผลเสียที่ร้ายแรงขึ้น เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการตรวจภูมิแพ้ของลูก โดยในปัจจุบัน สามารถตรวจภูมิแพ้ได้ด้วยวิธีการดังนี้

  • การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
  • การตรวจเลือดหาภูมิต้านทานต่อสารก่อภูมิแพ้ เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง หรือเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน

แนวทางการรักษาโรคภูมิแพ้ในเด็ก

การรักษาโรคภูมิแพ้หลัก ๆ แล้ว คือ หลีกเลี่ยงจากสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ โดยหากทราบว่าเด็กแพ้อะไรแล้ว ควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้สารเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกาย และกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ หรือรับประทานยาแก้แพ้เพื่อระงับอาการ

นอกจากนี้ ยังมีวิธีรักษาเพิ่มเติม คือ การรับประทานวิตามินซีเสริม เนื่องจากวิตามินซีมีส่วนช่วยสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งส่งผลให้อาการภูมิแพ้บรรเทาลง แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้าย คือ การบำบัดด้วยออกซิเจน หรือ Hyperbaric Oxygen Therapy เป็นการรักษาด้วยออกซิเจนบริสุทธ์ในปริมาณสูง ส่งผลให้อาการอักเสบของผู้ป่วยภูมิแพ้ และหอบหืดลดน้อยลง เพิ่มการไหลเวียนโลหิต รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยการรักษาด้วยวิธีนี้ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

Reference

ไทยรัฐออนไลน์. (5 กรกฎาคม 2566). ตอบชัดๆ “วิตามินซี” ช่วยอะไร กินตอนไหนดีต่อร่างกายที่สุด.

https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2706899

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สุวัฒน์ เบญจพลพิทักษ์. (9 สิงหาคม 2562). “โรคภูมิแพ้ในเด็ก สาเหตุและการ

ป้องกัน” (ตอน 1). ไทยรัฐออนไลน์. https://www.thairath.co.th/news/society/1633155

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สุวัฒน์ เบญจพลพิทักษ์. (23 สิงหาคม 2562). “โรคภูมิแพ้ในเด็ก สาเหตุและการ

ป้องกัน” (ตอน 3). ไทยรัฐออนไลน์. https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/1641075

K@POOK!. (23 กันยายน 2563). โรคภูมิแพ้ อาการแพ้ที่ควรระวัง ชะล่าใจอาจถึงชีวิต.

https://health.kapook.com/view2849.html

Sarah Navoy. (19 พฤษภาคม 2562). Can allergy relief be found inside a hyperbaric oxygen

chamber?. 16KMTR EUGENE OREGON. https://nbc16.com/news/local/can-allergy-relief-be-found-inside-a-hyperbaric-oxygen-chamber