เลขที่อนุมัติ ฆสพ.สบส. 7542/2565

ปรับพฤติกรรมลดความเสี่ยงโรคตับ

ปรับพฤติกรรมลดความเสี่ยงโรคตับ

โรคตับเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตอย่างมหาศาล ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยขจัดสารพิษ ย่อยอาหาร และเก็บสะสมพลังงาน แต่หากตับเกิดความเสียหาย อาจนำไปสู่โรคร้ายแรง เช่น ตับแข็ง ไขมันพอกตับ หรือมะเร็งตับ อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับได้ สามารถทำตามวิธีต่าง ๆ ได้ดังนี้
  • ลดการดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคตับ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานอาจทำให้เซลล์ตับอักเสบและเกิดพังผืด การลดหรือหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องตับ หากคุณต้องการดื่ม ควรจำกัดปริมาณให้ไม่เกินคำแนะนำของแพทย์หรือองค์กรสุขภาพ

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น อาหารที่มีไขมันอิ่มตัว น้ำตาลสูง หรือแปรรูปมากเกินไป สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไขมันพอกตับ เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้สด ธัญพืชเต็มเมล็ด โปรตีนจากพืช และปลาไขมันต่ำ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทอดหรือของหวานมากเกินไป

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายไม่เพียงช่วยลดน้ำหนักและลดไขมันสะสมในร่างกาย แต่ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันพอกตับ ตั้งเป้าหมายออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว วิ่ง หรือปั่นจักรยาน

  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

โรคอ้วนเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการเกิดโรคตับ ควบคุมน้ำหนักโดยการเลือกบริโภคอาหารที่ดีและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การลดน้ำหนักเพียง 5-10% ของน้ำหนักตัวสามารถลดปริมาณไขมันในตับได้

  • เลิกสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับ การเลิกสูบบุหรี่เป็นการช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคตับและยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น

การใช้ยาบางชนิดโดยไม่ปรึกษาแพทย์อาจทำให้ตับต้องทำงานหนักในการขจัดสารตกค้าง หลีกเลี่ยงการใช้ยาโดยไม่จำเป็น และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มใช้ยาทุกครั้ง

  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ

การตรวจสุขภาพช่วยให้คุณทราบสถานะของตับในปัจจุบัน รวมถึงค่าการทำงานของตับ เช่น ALT และ AST หากมีความผิดปกติ แพทย์จะสามารถวินิจฉัยและแนะนำวิธีการรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรก

  • หลีกเลี่ยงสารเคมีและสารพิษ

การสัมผัสสารเคมี เช่น สารกำจัดศัตรูพืช หรือควันพิษ อาจทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น หากต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมี ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันและปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย

  • รับวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ

ไวรัสตับอักเสบ เช่น ไวรัสตับอักเสบบีและซี เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคตับ การรับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีและการตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบซีช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและลดความเสี่ยงต่อโรคตับ

  • ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ

น้ำมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ตับกำจัดสารพิษ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือปรับตามความต้องการของร่างกาย

  • ลดความเครียด

ความเครียดอาจส่งผลต่อการทำงานของตับโดยทางอ้อม การหาวิธีลดความเครียด เช่น การฝึกโยคะ นั่งสมาธิ หรือการออกกำลังกายเบาๆ จะช่วยส่งเสริมการทำงานของตับ

ตับเป็นอวัยวะที่ทำงานหนักเพื่อดูแลสุขภาพของคุณในทุกวัน แต่หลายครั้งเรากลับละเลยการดูแลตับโดยไม่รู้ตัว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น ลดการดื่มแอลกอฮอล์ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพอย่างเป็นประจำ คือกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงของโรคตับ การเริ่มต้นดูแลตับตั้งแต่วันนี้ไม่เพียงช่วยป้องกันโรคร้ายแรง แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาว