เบาหวานเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในหลายด้าน ทั้งการทำงานของหัวใจ ไต ตา และระบบประสาท อาการของโรคเบาหวานมักจะเริ่มต้นแบบไม่ชัดเจน ทำให้หลายคนไม่ทันสังเกตเห็น จึงไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การตระหนักถึง “อาการเตือนภาวะเบาหวาน” เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเฝ้าระวังและสามารถรับการรักษาได้ทันเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมา
อาการเตือนภาวะเบาหวานที่ควรระวัง
- ปัสสาวะบ่อย หนึ่งในอาการเตือนที่พบได้บ่อยของโรคเบาหวานคือการปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ไตจะพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยต้องเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปกติ
- กระหายน้ำบ่อยและรู้สึกคอแห้ง การที่ร่างกายต้องขับน้ำออกมาเป็นจำนวนมากผ่านทางปัสสาวะ ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและทำให้รู้สึกกระหายน้ำบ่อย หากคุณสังเกตว่าตนเองดื่มน้ำบ่อยและมากกว่าปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวาน
- น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ แม้ว่าจะกินอาหารมากขึ้นเพื่อชดเชยพลังงานที่สูญเสียไป แต่ผู้ที่มีภาวะเบาหวานชนิดที่ 1 มักจะพบว่าน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลเป็นพลังงานได้ ทำให้เริ่มเผาผลาญไขมันและกล้ามเนื้อแทน
- หิวบ่อย (โดยเฉพาะหลังมื้ออาหาร) เมื่อร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานได้ ร่างกายจะส่งสัญญาณให้รู้สึกหิวบ่อยและต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังมื้ออาหาร แม้จะเพิ่งทานอิ่มไปไม่นานก็ตาม
- อ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลในเลือดเป็นพลังงานได้ ทำให้ร่างกายขาดพลังงาน จึงรู้สึกเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลีย แม้จะไม่ได้ทำกิจกรรมหนักๆ ก็ตาม อาการอ่อนเพลียที่ต่อเนื่องและไม่สามารถฟื้นฟูได้แม้จะพักผ่อนเพียงพออาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวาน
- การมองเห็นพร่ามัว น้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปสามารถส่งผลต่อเลนส์ตา ทำให้เกิดอาการมองเห็นพร่ามัว ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับตา เช่น โรคจอตาเสื่อม ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้
- บาดแผลหายช้า หากคุณสังเกตว่าบาดแผลเล็กๆ เช่น รอยขีดข่วนหรือแผลถลอกหายช้ากว่าปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือด การที่น้ำตาลในเลือดสูงทำให้การไหลเวียนเลือดและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อทำงานได้ไม่ดี ส่งผลให้บาดแผลหายช้าลง
- มีอาการชาหรือเสียวแปลบตามมือและเท้า โรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการชาหรือเสียวแปลบตามปลายประสาท เช่น มือและเท้า อาการนี้เรียกว่าโรคปลายประสาทเสื่อมจากเบาหวาน ซึ่งอาจเป็นอาการเตือนภาวะเบาหวานที่สำคัญ
- ติดเชื้อได้ง่าย ระดับน้ำตาลในเลือดสูงสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เช่น การติดเชื้อในระบบปัสสาวะ หรือเชื้อราในบริเวณที่อับชื้น
โรคเบาหวานเป็นภาวะที่สามารถป้องกันและจัดการได้หากมีการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เหมาะสม การสังเกตอาการเตือนของโรคเบาหวาน เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย น้ำหนักลด หิวบ่อย อ่อนเพลีย มองเห็นพร่ามัว แผลหายช้า และอาการชาหรือเสียวแปลบตามมือและเท้า จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับโรคนี้ได้อย่างทันท่วงที การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตโดยเน้นการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จัดการความเครียด นอนหลับเพียงพอ และควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การดูแลสุขภาพตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อชีวิตที่แข็งแรงและยืนยาว