สำรวจอาการโรคตับ ในระยะเริ่มแรกที่ควรเฝ้าระวัง
ในระยะเริ่มต้น โรคตับมักไม่มีอาการที่ชัดเจน แต่หากสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายแล้วพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพื่อทำการรักษาตั้งแต่แรกเริ่มก็จะดีที่สุด
- อ่อนเพลียรู้สึกเหนื่อยล้าแม้จะนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ ร่างกายไม่มีแรง ทำกิจวัตรประจำวันได้ลำบาก
- คลื่นไส้ อาเจียนโดยเฉพาะตอนเช้า หรือหลังกินอาหาร โดยไม่ทราบสาเหตุ รวมถึงอาจมีอาการเบื่ออาหาร ไม่อยากกินอะไร
- ท้องอืดรู้สึกอึดอัดแน่นท้องหลังกินอาหาร มักเกิดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย รู้สึกจุกแน่น
- ภาวะดีซ่านซึ่งอาจทำให้มีตาเหลือง ตัวเหลือง ผิวหนังเป็นสีเหลือง
- ปัสสาวะสีเข้มกว่าปกติโดยมีสีคล้ายน้ำชา รวมถึงอาจปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน
สาเหตุของโรคตับ
- การดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเป็นสาเหตุหลักของโรคตับ
- การติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี ดี และอี
- ไขมันพอกตับ ทั้งที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ดื่มแอลกอฮอล์
- โรคพันธุกรรม เช่น ฮีโมโครมาโทซิส และวิลสันส์ดีซีส
- การใช้ยา และสารเคมี การใช้ยาบางชนิด หรือการสัมผัสสารเคมีที่เป็นพิษต่อตับ
การรักษาโรคตับ
- การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ลด หรือหยุดดื่มแอลกอฮอล์ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- การใช้ยา ในบางกรณี แพทย์อาจให้ยารักษาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือยาลดการอักเสบของตับ
- การรักษาเฉพาะทาง สำหรับโรคตับที่เกิดจากพันธุกรรม หรือการสะสมของสารพิษในร่างกาย
- การติดตาม และตรวจสุขภาพ การตรวจติดตามผลการรักษา และสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอ
- การผ่าตัด ในบางกรณีที่มีการเสียหายของตับอย่างรุนแรง อาจต้องการการผ่าตัดเปลี่ยนตับ
การป้องกันโรคตับ
- ดื่มแอลกอฮอล์อย่างรับผิดชอบ หรือหยุดดื่มหากมีความเสี่ยงสูง
- ฉีดวัคซีน ป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ และบี
- รักษาน้ำหนัก ทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงสารพิษ ใช้ยา และสารเคมีอย่างระมัดระวัง
โรคตับสามารถจัดการได้ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์ การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต และการดูแลสุขภาพอย่างรอบคอบ หากคุณมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่ควรมองข้ามหากมีความเสี่ยง การตรวจสุขภาพมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลสุขภาพ และป้องกันโรคต่าง ๆ ได้อาจส่งผลต่อร่างกาย ระบบอื่นๆ ได้ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ และให้แพทย์การวินิจฉัยอาการ เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพของคุณให้ห่างไกลจากโรค
นอกจากนี้ ควรหมั่นสังเกตอาการตัวเองอยู่เสมอหากมีความผิดปกติ ทางที่ดีควรพบแพทย์ เผื่อวางแผนสุขภาพ หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย หรือกำลังป่วยเป็นโรคต่าง ๆ เข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ V Precision Clinic
เอกสารอ้างอิง
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/โรคตับคั่งไขมัน-อันตราย/ อ. พญ. ศุภมาส เชิญอักษร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
https://www.thaihealth.or.th/กินอย่างไรเมื่อเป็นโรค-2/
https://www.prudential.co.th/corp/prudential-th/th/article/overview-of-liver-disease/