รู้หรือไม่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี

รู้หรือไม่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นวัคซีนที่ช่วยป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ถือเป็นวัคซีนที่จำเป็นและแนะนำให้เข้ารับการฉีดเป็นประจำทุกปี สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนและควรฉีดเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ควรได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ก่อนที่ฤดูฝนจะมาช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ทั้งนี้การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ตลอดทั้งปี โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งในช่วงฤดูฝนและต้นฤดูหนาวจะเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยมีเฉพาะชนิดที่เป็นเชื้อตายเท่านั้น เป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อโรคตัวที่ตายแล้ว โดยไม่สามารถก่อให้เกิดโรคได้ จึงมีความปลอดภัยสูงสามารถป้องโรคไข้หวัดใหญ่ได้ 70% – 90% โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถแบ่งได้ 2 แบบ แบบ 3 สายพันธ์และ 4 สายพันธุ์ โดยความแตกต่างของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธ์และ 4 สายพันธุ์ นั้นแตกต่างกันในเรื่องของการป้องกันที่ครอบคลุมไม่เหมือนกันของสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ 

  • วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบ 3 สายพันธุ์ จะสามารถป้องกันได้ทั้งสายพันธุ์ A (H1N1 และ H3N2) และสายพันธุ์ B (ตระกูล Victoria)
  • วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบ 4 สายพันธุ์ จะสามารถป้องกันได้ทั้งสายพันธุ์ A (H1N1 และ H3N2) และสายพันธุ์ B (ตระกูล Victoria และ Yamagata)

ข้อแนะนำสำหรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

  • ควรฉีดปีละ 1 ครั้งเป็นประจำทุกปี เพราะวัคซีนจะมีการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ที่บรรจุอยู่ในขวดวัคซีน โดยเป็นการคาดการณ์ว่าจะเกิดการระบาดของสายพันธุ์นั้นๆ ตามองค์การอนามัยโลก
  • ควรเริ่มฉีดตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี เพื่อเป็นการป้องกันก่อนการเกิด การแพร่ระบาดในช่วงฤดูฝนและต้นฤดูหนาวของประเทศไทย หรือสามารถฉีดได้ตลอดทั้งปี
  • ผู้ที่ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วยังมีโอกาสในการเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ แต่ความรุนแรงของโรคจะลดลง
  • สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ร่วมกับวัคซีนชนิดอื่นได้ เนื่องจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย จึงไม่มีผลต่อวัคซีนชนิดอื่นๆ

ใครบ้างที่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

  • เด็กทารกที่อายุ 6 เดือน – 1 ปี
  • ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี
  • ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ อายุครรภ์มากกว่า 4 เดือน หรือกำลังวางแผนตั้งครรภ์
  • ผู้ที่เป็นโรคอ้วน
  • ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหอบหืด โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไตวาย โรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด
  • ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ที่ติดเชื้อ HIV โรคธาลัสซีเมีย

ใครบ้างที่ห้ามฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

  • เด็กที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน
  • ผู้ที่มีประวัติการแพ้ไข่รุนแรง (Anaphylaxis) **ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับการฉีดวัคซีน (วัคซีนไข้หวัดใหญ่ส่วนมากจะมีการเลี้ยงเชื้อในเซลล์ไข่ จึงทำให้มีส่วนประกอบของโปรตีนจากไข่ปนในวัคซีน สำหรับผู้ที่มีประวัติการแพ้ไข่รุนแรงควรหลีกเลี่ยงการฉีด แต่ถ้าหากแพ้ไม่รุนแรง เช่น เป็นผื่น สามารถฉีดได้แต่ต้องเฝ้าดูอาการหลังฉีด 30 นาที)
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือส่วนประกอบในวัคซีนไข้หวัดใหญ่
  • ผู้ที่เป็นไข้หวัดและยังมีไข้อยู่ หรือมีโรคติดเชื้อรุนแรง **ควรรักษาไข้หวัดให้หายก่อนแล้วจึงเข้ารับวัคซีน

อาการหลังจากได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่

  • บางท่านอาจมีอาการ ปวดบวมบริเวณที่ฉีดได้ สามารถประคบเย็น หรือรับประทานพาราเซตามอลบรรเทาอาการได้
  • บางท่านอาจมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยทั่วไปมักจะมีอาการน้อย และมีอาการหลังได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประมาณ 6-24 ชั่วโมง หรือ 1-2 วัน ส่วนมากพบในเด็กเล็กมากกว่าผู้ใหญ่ สามารถรับประทานพาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการ และรักษาตามอาการได้
  • ควรงดใช้แรงแขนข้างที่ฉีดวัคซีนมา

การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นอีกหนึ่งวิธีในการป้องกันและเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ รวมถึงช่วยลดความรุนแรงของการเกิดโรคแทกซ้อนและค่าใช้จ่ายในการเข้ารับรักษาในโรงพยาบาล ที่ V Precision เราให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ชนิด High Dose สำหรับผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป  โดยมีการใช้มาแล้วนานกว่า 10 ปีในประเทศสหรัฐอเมริกาและในยุโรป ช่วยลดการนอนโรงพยาบาลจากปอดอักเสบที่เกี่ยวข้องกับไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเหล่านี้มักจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดย 85% ของผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ