เลขที่อนุมัติ ฆสพ.สบส. 7542/2565

ไม่มีอาการแพ้ต้องตรวจภูมิแพ้หรือไม่

ไม่มีอาการแพ้ต้องตรวจภูมิแพ้หรือไม่

การตรวจคัดกรองโรคภูมิแพ้เป็นสิ่งจําเป็นในการตรวจหา และรักษาโรคภูมิแพ้ และเป็นหนึ่งในวิธีการวินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการตรวจหา และรักษาโรคภูมิแพ้อย่างถูกต้อง การตรวจภูมิแพ้ เพื่อให้คุณห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ที่ยังไม่เกิดขึ้นได้ การยืนยันการวินิจฉัยสามารถทำได้โดยการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง หรือการเจาะเลือด ซึ่งอาจจะไม่ได้ทำในคนไข้ทุกราย แต่จะทำในกรณีที่
  1. ให้การรักษาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น
  2. คนไข้ต้องการทราบว่าตนเองแพ้อะไร เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างถูกต้อง
  3. คนไข้ที่จำเป็นต้องรักษาโดยวิธีการฉีดวัคซีนภูมิแพ้ จึงต้องทราบก่อนว่าแพ้อะไร

อันตราย และภาวะแทรกซ้อน

โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ เป็นโรคที่ไม่ได้มีอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่เป็นโรคประจำตัว รักษาไม่หายขาด แต่สามารถควบคุมอาการ เพื่อให้คนไข้ไม่มีอาการ และสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ หากควบคุมอาการภูมิแพ้ไม่ดี หรือปล่อยให้มีอาการเรื้อรังโดยไม่รักษา อาจพบภาวะผิดปกติอื่นในระบบทางเดินหายใจร่วมด้วยได้ เช่น ต่อมอะดีนอยด์โต นอนกรน หูชั้นกลางอักเสบ หอบหืด

การรักษา มีทั้งหมด 3 วิธี ดังนี้

1. การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ โดยมีวิธีการดังนี้

1.1 พยายามเลือกใช้พรม ผ้าปูที่นอนที่ไม่กักเก็บไรฝุ่น ควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกสัปดาห์ และควรทำความสะอาดด้วยน้ำร้อน 50-60 องศาเซลเซียส
1.2 ทำความสะอาดบ้านทุกวัน เพื่อป้องกันไรฝุ่น
1.3 หากเป็นคนแพ้ขนสัตว์ ไม่ควรเลี้ยงสัตว์ภายในบ้าน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรแบ่งบริเวณให้ชัดเจน
1.4 ป้องกันไม่ให้มีแมลงสาบในบ้าน โดยฉีดยาป้องกัน และไม่ทิ้งเศษอาหารไว้ข้ามคืน
1.5 ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สารก่อภูมิแพ้ แต่สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจได้ เช่น สารเคมี กลิ่นฉุน อากาศที่เย็นหรือร้อนเกินไป ควันบุหรี่ ควันรถ ฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากคนไข้ในกลุ่มนี้มักจะมีความไวต่อสารเหล่านี้มากกว่าคนปกติ

2. การใช้ยา แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ ดังนี้

2.1 ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน
2.2 ยาสเตียรอยด์ชนิดพ่นจมูก

การรักษาด้วยการใช้ยา จะพิจารณารักษาตามระยะเวลาที่มีอาการ และความรุนแรงของโรค โดยถ้าเป็นไม่บ่อย และอาการไม่รุนแรงคือไม่ได้มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น การนอน การเรียน การทำงาน อาจจะพิจารณาให้ใช้ยาแก้แพ้ชนิดรับประทานเป็นครั้งคราวได้ ในกรณีที่คนไข้มีอาการบ่อย ๆ 4 วันต่อสัปดาห์ และเกิน 4 สัปดาห์ขึ้นไป หรือมีอาการปานกลางถึงรุนแรง คือมีการรบกวนชีวิตประจำวัน มักควบคุมอาการโดยการใช้ยาสเตียรอยด์ชนิดพ่นจมูกเป็นหลัก ซึ่งมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูง มีผลข้างเคียงต่ำ จึงสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว ในปัจจุบันมียาสเตียรอยด์พ่นจมูกที่มีส่วนประกอบของยาแก้แพ้ร่วมด้วย มีข้อดีคือออกฤทธิ์เร็ว เเต่มีข้อเสียคือมีรสชาติขม ซึ่งสามารถเลือกใช้ยาดังกล่าวในคนไข้กลุ่มนี้ได้ด้วย

3. การฉีดวัคซีนภูมิแพ้

กรณีที่ให้การรักษาโดยการใช้ยา แล้วไม่สามารถควบคุมอาการได้ หรือในกลุ่มคนไข้ที่ไม่สามารถทนผลข้างเคียงจากการใช้ยาได้ หรือกลุ่มคนไข้ที่มีโอกาสเป็นหอบหืดได้ ก็จะทำการรักษาโดยการฉีดวัคซีนภูมิแพ้ ซึ่งจะสามารถปรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มีการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ที่น้อยลง ทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น มีอาการภูมิแพ้ลดลง หรือลดการใช้ยาลงได้ แต่การรักษาด้วยการฉีดวัคซีนภูมิแพ้ จะใช้เวลาค่อนข้างนานและจำเป็นต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 3-5 ปี ปัจจุบันมีการใช้วัคซีนภูมิแพ้ชนิดอมใต้ลิ้นในคนไข้ที่แพ้ไรฝุ่น มีข้อดีคือคนไข้สามารถบริหารยาเองที่บ้านได้ไม่ต้องมาโรงพยาบาลบ่อย ข้อเสียคือยังมีราคาที่เเพงกว่าวิธีการฉีด

การดูแลตนเอง

คนไข้โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เเละสิ่งกระตุ้นที่ไม่ใช่สารก่อภูมิแพ้ รับประทานยาตามแพทย์สั่ง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เครียด เพราะอาจทำให้มีอาการภูมิแพ้กำเริบขึ้นได้ ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ดังนั้น เราควรสำรวจร่างกายของตัวเราเองอย่างเป็นประจำ ไม่ควรนิ่งนอนใจ  แต่หากเรารู้สาเหตุของการแพ้อย่างชัดเจน และพยายามหลีกเลี่ยง การทดสอบในโรคภูมิแพ้เป็นการทดสอบที่ทำให้เรารู้ถึงสิ่งที่เราแพ้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เราสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เหล่านั้นทั้งจากการตั้งใจ หรือจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สามารถป้องกันตัวเองให้ห่างจากความเสี่ยงที่เกิดจากการแพ้ได้ ส่งผลให้อาการแพ้ดีขึ้นกว่าการรับประทานยาเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้ หากต้องการเข้ารับการทดสอบว่าตนเองมีอาการแพ้ต่อสิ่งกระตุ้นใดๆ หรือไม่ แนะนำว่าควรเข้ารับการทดสอบในโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์เฉพาะทางสามามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ V Precision Clinic สนับสนุนให้มีการเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ หรือการตรวจสุขภาพถือเป็นการประเมินร่างกายตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะมีโรคร้ายตามมา การป้องกัน หรือการหาตัวช่วยเสริมให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงย่อมทำให้คุณห่างไกลจากโรคร้าย ที่ V Precision Clinic เรามีทีมแพทย์คอยแนะนำ ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมงาน ที่มีความรู้ความชํานาญ เพื่อดูแลสุขภาพของคุณเฉพาะบุคคล เข้ามาปรึกษาที่ V Precision Clinic ได้เลยค่ะ

เอกสารอ้างอิง

https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2753114

แหล่งข้อมูล

ผศ. พญ.กังสดาล ตันจรารักษ์ ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล