1. โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายทางอากาศหรือการสัมผัสโดยตรง เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือการใช้สิ่งของร่วมกัน เด็กที่อยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น โรงเรียนหรือสนามเด็กเล่น มีโอกาสติดเชื้อสูง
อาการ
- น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ
- ไข้สูง อ่อนเพลีย
- ปวดศีรษะ หรือปวดเมื่อยตามร่างกาย
วิธีป้องกัน
- ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังเล่นของเล่น
- ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้เด็กเป็นประจำทุกปี
- สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก
2. โรคมือ เท้า ปาก
โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัส ซึ่งแพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรง เช่น น้ำลาย น้ำมูก หรือการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ
อาการ
- มีไข้สูงในระยะแรก
- มีตุ่มน้ำหรือผื่นแดงบริเวณมือ เท้า และในปาก
- เบื่ออาหาร เจ็บคอ
วิธีป้องกัน
- ทำความสะอาดของเล่นและอุปกรณ์ที่เด็กใช้เป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในที่สาธารณะ หากมีการระบาดของโรค
- หากเด็กมีอาการควรพาไปพบแพทย์และแยกเด็กออกจากกลุ่มเพื่อลดการแพร่กระจาย
3. โรคอีสุกอีใส
โรคอีสุกอีใสเกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella Zoster Virus) ซึ่งแพร่กระจายทางอากาศหรือการสัมผัสตุ่มน้ำโดยตรง เด็กในวัยเรียนมีโอกาสติดเชื้อสูง โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน
อาการ
- ไข้ต่ำถึงไข้สูง
- มีผื่นแดงและตุ่มน้ำใสตามร่างกาย
- คันและระคายเคืองผิวหนัง
วิธีป้องกัน
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสให้เด็ก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้
4. โรคท้องร่วง (อุจจาระร่วง)
โรคท้องร่วงในเด็กมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส เช่น โรตาไวรัส ซึ่งสามารถปนเปื้อนในอาหาร น้ำดื่ม หรือมือที่ไม่สะอาด
อาการ
- ถ่ายเหลวบ่อยครั้ง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดท้อง
- มีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ตาโหล
วิธีป้องกัน
- ให้เด็กดื่มน้ำสะอาดและรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่
- ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจนหรือสุกๆ ดิบๆ
- หากเด็กมีอาการท้องร่วงรุนแรง ควรให้ดื่มน้ำเกลือแร่และรีบพบแพทย์
5. โรคภูมิแพ้
ภูมิแพ้ในเด็กอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ หรืออาหารบางชนิด โดยเฉพาะเด็กที่มีประวัติครอบครัวเป็นภูมิแพ้จะมีความเสี่ยงสูงกว่า
อาการ
- จาม น้ำมูกไหล คันจมูก
- ผื่นแดง คันผิวหนัง
- หายใจลำบาก หรือมีอาการหอบหืด
วิธีป้องกัน
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ฝุ่นหรือควัน
- ทำความสะอาดบ้านและของเล่นเด็กเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่เด็กแพ้ และอ่านฉลากอาหารก่อนให้เด็กบริโภค
- หากเด็กมีอาการแพ้รุนแรง ควรพกยาแก้แพ้หรือยาพ่นตามคำแนะนำของแพทย์
การรู้เท่าทันและป้องกัน 5 โรคยอดฮิตในวัยเด็กไม่เพียงช่วยให้ลูกรักเติบโตอย่างแข็งแรง แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ การใส่ใจเรื่องสุขภาพของเด็กควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ ทั้งการปลูกฝังนิสัยการดูแลตัวเอง เช่น การล้างมืออย่างถูกวิธี การเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และการสอนให้เด็กรู้จักหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่อาจก่อให้เกิดโรค นอกจากนี้ ผู้ปกครองควรสังเกตอาการผิดปกติในเด็กอย่างใกล้ชิด และไม่ลังเลที่จะพาไปพบแพทย์เมื่อจำเป็น เพราะสุขภาพที่ดีของลูกคือรากฐานสำคัญของการเติบโตที่แข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว