AGEs เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างน้ำตาลกับโปรตีนในร่างกาย เมื่อน้ำตาลไปจับตัวกับโปรตีนในร่างกายจะทำให้โปรตีนเหล่านั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง สูญเสียหน้าที่ และถูกทำลายลง จึงทำให้ร่างกายเสื่อมลง เนื่องจากไปกระทบต่อเซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทำให้ร่างกายของเราเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต และโรคอัลไซเมอร์ แต่ถ้าหากเราควบคุม AGEs ได้ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเสื่อมสภาพของร่างกายได้เช่นกัน ซึ่งสามารถทำได้จากปรับพฤติกรรม การรับประทานอาหารและการตรวจ AGEs ในร่างกาย
ตรวจ AGEs ได้อย่างไร ?
การตรวจ AGEs สามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องเจาะ และไม่เจ็บปวด โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า AGE Reader เครื่องนี้ใช้แสงพิเศษที่เรียกว่า UV-A light ส่องไปที่ผิวหนังของเราบริเวณท้องแขน ผิวหนังบริเวณท้องแขนเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการวัดระดับ AGEs เนื่องจากมีความหนาและความยืดหยุ่นที่พอเหมาะ และการสะสมของสาร AGEs ในบริเวณนี้สะท้อนถึงระดับ AGEs ในร่างกายได้อย่างแม่นยำ เนื่องจาก สาร AGEs มีการสะสมในเนื้อเยื่อต่าง ๆ รวมถึงผิวหนังด้วย ซึ่งผิวหนังเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สาร AGEs ไปสะสมได้ง่ายและเห็นได้อย่างชัดเจน
AGEs มีผลเสียต่อร่างกายหลายประการ ได้แก่
- เกิดการแข็งตัวของหลอดเลือด เสี่ยงเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและไม่ยืดหยุ่น เกิดความเสื่อมสภาพของผิวหนัง
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน
- เสื่อมสภาพของระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคไต
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบ โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน
- เสื่อมสภาพของดวงตา ทำให้เกิดต้อกระจกและการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา
AGEs เป็นสารประกอบที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างน้ำตาลกับโปรตีนในร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสุขภาพ การวัดค่า AGEs ด้วยเครื่อง AGE Reader ช่วยให้เราสามารถประเมินความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนได้โดยไม่ต้องเจาะเลือดหรือทำการตรวจชิ้นเนื้อ ทำให้การวัดค่า AGEs เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว