เลขที่อนุมัติ ฆสพ.สบส. 7542/2565

ป้องกันการใช้จอมากเกินไปในวัยเด็ก

ป้องกันการใช้จอมากเกินไปในวัยเด็ก

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การใช้จอ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และโทรทัศน์ กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แม้ว่าจอจะมีข้อดีในด้านการเรียนรู้และความบันเทิง แต่การใช้จอมากเกินไปในวัยเด็กอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและจิตใจอย่างรุนแรง ดังนั้น พ่อแม่และผู้ปกครองควรให้ความสำคัญกับการจำกัดเวลาและรูปแบบการใช้จอของเด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการที่สมวัยและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ผลกระทบจากการใช้จอมากเกินไปในเด็ก

  • ปัญหาด้านสายตา การจ้องจอเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการตาล้า ตาแห้ง และสายตาสั้นในเด็ก
  • ปัญหาทางร่างกาย การนั่งอยู่หน้าจอเป็นเวลานานส่งผลให้เด็กขาดการเคลื่อนไหวและออกกำลังกาย ซึ่งอาจนำไปสู่โรคอ้วนและปัญหากล้ามเนื้อและกระดูก
  • ปัญหาการนอนหลับ แสงสีฟ้าจากหน้าจอรบกวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ส่งผลให้เด็กนอนหลับยากและมีคุณภาพการนอนที่แย่ลง
  • การพึ่งพาเทคโนโลยี เด็กที่ใช้จอมากเกินไปอาจพัฒนาพฤติกรรมที่พึ่งพาเทคโนโลยี และอาจรู้สึกหงุดหงิดหรือเครียดเมื่อไม่ได้ใช้งาน
  • ปัญหาสมาธิและพฤติกรรม การใช้จออย่างต่อเนื่องอาจทำให้เด็กมีสมาธิสั้น ไม่สามารถจดจ่อกับงานหรือการเรียนได้ดี
  • ความสัมพันธ์ทางสังคม เด็กที่ใช้เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไปอาจพลาดโอกาสในการพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อสารกับผู้อื่น

แนวทางป้องกันการใช้จอมากเกินไปในวัยเด็ก

  • กำหนดเวลาในการใช้จอ จำกัดเวลาใช้จอไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อวัน
  • กำหนดพื้นที่ปลอดจอ เช่น ห้องนอน ห้องอาหาร หรือพื้นที่เล่น เพื่อส่งเสริมให้เด็กทำกิจกรรมอื่นๆ
  • แทนที่เวลาหน้าจอด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น การอ่านหนังสือ การวาดภาพ การเล่นดนตรี หรือการเล่นกีฬา
  • ผู้ปกครองควรใช้เวลาร่วมกับเด็กในกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับจอ เช่น การทำอาหาร เล่นเกมกระดาน หรือการเดินเล่น
  • ผู้ปกครองควรแสดงให้เห็นถึงการใช้จออย่างเหมาะสม เช่น ไม่ใช้งานจอขณะรับประทานอาหาร หรือไม่ใช้งานจอก่อนนอน
  • ใช้เครื่องมือช่วยควบคุมเวลา เช่น การตั้งค่าจำกัดเวลาในแอปหรืออุปกรณ์

ส่งเสริมกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับจอ

  1. การเล่นกลางแจ้ง การเล่นนอกบ้านช่วยส่งเสริมสุขภาพกายและจิตใจของเด็ก รวมถึงการพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวและความคิดสร้างสรรค์
  2. การสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ส่งเสริมให้เด็กเล่นกับเพื่อนหรือเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม เช่น กิจกรรมในโรงเรียน คลับกีฬา หรือการเรียนพิเศษที่ช่วยพัฒนาทักษะเฉพาะด้าน
  3. การทำกิจกรรมในครอบครัว กิจกรรมที่ทำร่วมกันในครอบครัว เช่น การทำอาหาร การปลูกต้นไม้ หรือการเล่นเกมกระดาน ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและลดการพึ่งพาหน้าจอ

การป้องกันการใช้จอมากเกินไปในวัยเด็กเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่และผู้ปกครองควรให้ความใส่ใจ การสร้างสมดุลระหว่างการใช้จอกับกิจกรรมอื่นๆ จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่สมวัยและลดผลกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจ การเป็นแบบอย่างที่ดีและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะช่วยให้เด็กเติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาพดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว

Relate Article